บทความ และข้อมูลต่างๆ ที่นำเสนออยู่บนบล็อกแห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
ข้อมูล เนื้อหาบางส่วนอาจมีการอ้างอิงมาจากที่ต่างๆ ผู้อ่าน โปรด..จง..ใช้..วิจารณญาณในการชม

ขอความสุข...คืนกลับมา



Count Down เคาน์ดาวน์ หนังไทยที่วัยรุ่นต้องดู


วันก่อนได้มีโอกาสดู VCD หนังไทยเรื่อง Count down ของค่าย GTH (แผ่นมาสเตอร์เพิ่งออก ไม่ได้ดูโรง ฮ่าๆๆ) แรกๆ ที่ได้มา ก็คิดว่าตัวหนังก็คงเป็นแนววัยรุ่นถูกไล่ฆ่า หนีตายอยู่ที่เมืองนอก อะไรประมาณนั้น ไม่มีความน่าสนใจเท่าไร ดูเอาสนุกๆ ละกัน

แต่เมื่อได้ดู(เกือบ)จบ แวบแรกที่ผมคิด เอาละไงหักมุมมาละ? เออทำไมมันเป็นอย่างนั้น? ไอ้ตัวละครนี่ก็ไม่มีที่มาที่ไป? แล้วไอ้ที่ตายทำไม..ฟื้น? ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเลย? หรือว่าหนังมันต้องการจะสื่ออะไร..วะ?

แต่เมื่อผมนั่งดูต่อจนจบ ผมพบว่าตัวหนังต้องการจะสื่อบางอย่างให้คนดูผ่านตัวละครในหนัง

ผมลองไปหาอ่านดูสปอย บทวิจารย์หนังในเว็บพันทิพย์ ว่าหลายๆ คนที่ได้ดู เค้าคิดกันยังไงกับหนังเรื่องนี้

แล้วผมก็พบว่า มีหลายคนที่ผิดหวัง และสับสน งงงวยกับหนังเรื่องนี้ พาลให้ไม่สนุก เสียดายตังค์ว่ากันไป หลายคนวิจารย์กันบทอ่อน เดาง่าย หลายคนคิดกันไปต่างๆ นา บ้างก็พูดสปอยกันในเรื่องเลยว่า หนังเรื่องเนี้ย ในเรื่องเหล่าตัวละครหลอนกันเองเพราะฤทธิ์ยา.. ไปนั่น...

ผมอ่านคอมเม้นแสดงความคิดเห็นต่างๆ ของคนที่ได้ดู พบว่าหลายคนดู แต่กลับไม่เข้าใจการสื่อความหมายของตัวหนัง และกว่า 70% เข้าใจกันไปคนละทิศละทาง

ดูหนังเรื่องเดียวกัน แต่กลับเข้าใจกันไปคนละประเด็น หนังมันดูยากหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่สำหรับผม ผมดูแล้วรู้สึกสนุก ลุ้น เครียด กดดันไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหมือนว่านั่งอยู่ในเหตุการณ์ที่ดำเนินไปอย่างเรียลไทม์

ส่วนตัวผมอยากจะบอกว่า หนังเรื่องนี้ค่อนข้างทำออกมาได้ดีทีเดียว กับบทหนัง แนวที่แหวกออกไปจากเดิม และยังไม่มีใครเคยสร้างมาก่อนสำหรับหนังไทย ถ้าไม่ได้มองกันในมุมว่า จะต้อง "นำเสนอทุกแง่ทุกมุม จะต้องดูสนุก ดูง่าย และต้องรู้เรื่อง กระจ่างแจ้ง และจบ อย่างที่มันจะต้องเป็น" ถ้าคุณคิดแบบนั้น ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า คุณไม่เหมาะที่จะดูหนังแนวนี้

Count Down เป็นแนวทริลเลอร์ หรือหนังแนวระทึกขวัญ ที่ถือว่าทำแหวกแนวออกมาได้คล้ายกับหนังฝรั่ง (ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีของหนังไทย) ซึ่งหนังแนวทริลเลอร์นี้ บางทีตัวละครก็ไม่มีที่มาที่ไป หรือเหตุจูงใจอะไรที่แน่ชัด ที่จะต้องมาจะต้องมาทำอย่างนั้น หรือจะต้องมานำเสนอให้คนดูเข้าใจว่าทำไมมันต้องทำอย่างนี้ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยอะไรตรงนี้มาก ให้ดูผ่าน ดูรวมๆ และดูบทสรุปของตัวหนัง ว่ามันจะจบอย่างไรดีกว่า

เนื้อหาโดยรวมที่ผมเล็งเห็น และมองว่าผู้สร้างหนังต้องการจะสื่อให้คนดู คือ เค้าต้องการจะสื่อแค่ "ให้ทุกคนทำความดี และเป็นคนดี ไม่งั้นก็จะเจอดี" โดยเฉพาะวัยรุ่นไทย (พวกเกรียน) โดยจะเห็นว่าตัวหนังมีการเอาศีล5 มานำเสนอให้เห็น และแทรกอยู่ในเรื่อง..ทั้งเรื่อง!!

ช่วงหนึ่งในหนังจะเห็นว่ามีการหยิบยกประเด็นที่เคยเป็นข่าวดังในหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อปี 55 มาเหน็บให้เจ็บจี๊ด ผูกเข้าเรื่องอีกด้วยว่า นางเอกเป็นลูกนักการเมืองผู้มีอำนาจ ขับรถชนเป็นเหตุให้มีคนตาย แต่ไม่ติดคุก แล้วหนีไปอยู่ในต่างประเทศ (น้องแพรวา หรือเปล่า..) ซึ่งรอดพ้นเงื้อมือกฏหมายไทยได้ ในเมื่อกฏหมายไทยทำอะไรไม่ได้ ก็เลยสมมุติให้มีบางสิ่งมาลงโทษ..ซะ

โลเคชั่นอยู่ต่างประเทศ จะเป็นอะไรไม่ได้ก็เลยต้องสร้างสิ่งสมมุติให้เป็น "เทวฑูต" หรือ "พระเจ้า" (Jusus) หรือผู้ที่จะมาปลดปล่อย (เฮซุส) ที่มาในรูปแบบ "ฝรั่ง" ที่เป็น "คน" เข้ามาจัดการตบเกรียน (ในเรื่องจะเห็นว่ามีการยกเอาบทในพระคำภีร์มาพูด เกี่ยวกับการชำระล้างบาป ทุกคนจะต้องถูกพิพากษาในวันล้างโลก) เข้ามาทำให้รู้ ให้เห็น ให้สำนึก และเกิดความกลัวกับสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไป โดยผ่านตัวละครที่เป็นวัยรุ่นทั้ง 3 คน กับความผิดบาปต่างคนต่างวาระที่คนทั้ง 3 ได้กระทำ และนำเสนอออกมาเป็นเรื่องราว ตื่นเต้น ระทึกขวัญ!!!!

นัย.. เสมือนว่า.. เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง แต่สุดท้าย..ไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ผมว่าเรื่องนี้ถ้าวัยรุ่นได้ดู คงคิดอะไรได้เยอะ (ถ้าคิดเป็นนะ ^^)
 

เปิดตัวเกมส์ MMORPG ตัวใหม่ The Legend of Emperor

ค่ายวินเนอร์เปิดตัวเกมส์ใหม่มาแรง The Legend of Emperor เกมส์ออนไลน์เชื้อสายจีน
Winner Online เปิดตัวเกมออนไลน์วิทยายุทธจากวรรณกรรมดัง The Legend of Emperor

The Legend of Emperor

Winner Online เปิดตัวเกมส์ MMORPG ตัวใหม่ The Legend of Emperor “ตำนานจักรพรรดิ์ สยบเทพ”
พร้อมเปิดเฟซบุ๊คเผยข้อมูลเกมที่ http://www.facebook.com/TheLegendofEmperor และเว็บไซต์ http://www.emp.in.th

เกมส์ The Legend of Emperor ได้ต่อยอดจากการ์ตูนชื่อดัง จากวรรณกรรมแนววิทยายุทธ พร้อมพัฒนาเกมส์ด้วย Unreal Engine ทำให้สามารถถ่ายทอดความสวยงามของตัวละคร , ยุคสมัย , และวรยุทธต่างๆได้อย่างลงตัว พร้อมนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่ายด้วยระบบเควสอัตโนมัติ ที่จะทำให้ค้นหา NPC เนื้อเรื่องในแต่ละแผนที่อย่างง่ายดาย

เกมส์ The Legend of Emperor เป็นอีก 1 เกมส์ทีได้รับความนิยมอันดับ 1 จากประเทศไต้หวัน, ฮ่องกง กับมาเลเซีย ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ..... ฯลฯ

บลา บลา ๆ ๆ

พอได้ข่าวผมก็อยากจะรู้ว่าเกมส์นี้เป็นยังไงตามประสาคนเล่นเกมส์ ก็หาเข้าเว็บเกมส์ http://winner.co.th หาข้อมูลดูซะหน่อย
พอเข้าหน้าหลักเกมส์เท่านั้น โอ้แม่จ้าววววว นมปะทะเต็มหน้า แทบหัวทิ่ม!!! นึกว่าเข้าเว็บผิด

เฮ้ย..เว็บมาสเตอร์จงใจ หรือว่าเฮียแกไม่แคร์สื่อวะ เล่นจัดเอานางแบบคอสเพลย์ตัวเกมส์มาโชว์หลาอยู่หน้าแรกในสภาพเยี่ยงนี้!!

ที่จริงการนำเอาคอสเพลย์ตัวละครเกมส์ใส่ชุดจีนมาโปรโมทมันก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเกมส์ออนไลน์ค่ายไหนเค้าก็ทำกันแบบนี้
ที่จัดหานางแบบหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักมานุ่งชุดตัวนางเอก หาคนหล่อๆมาใส่ชุดเป็นพระเอก ตามสไตร์คอสเพลย์ของตัวเกมส์

แต่เฮียวินเนอร์นี่การตลาดแกเจ๋งกว่านั้น

เกมส์จีนใส่ชุดจีนแบบนั้นมันธรรมดาไป ก็เลยมีไอเดียจับเอานางแบบมาเปลื้องชุดจีนออกซะ และจัดโชว์นมเต็มคัพให้ดูกันเลย
หวังเรียกลูกค้าวัยทำงาน อย่างไม่แคร์สื่อและสังคมว่าเว็บเกมส์ จะมีเด็กๆ เข้ามาเล่นเกมส์หรือไม่

พอผมได้เห็นแบบนี้แล้วก็เลยลองแวะไปทักทายพี่วินเนอร์แกบนเฟสบุคหน่อย ว่าเฮียเค้าคิดอย่างไรจึงทำหน้าเว็บแบบนี้ ก็เลยไปแปะข้อความแกมหยิกให้สะดุ้งนิดๆ ว่า เปิดตัวเกมส์ใหม่แรงจริง เข้ามาหน้าเว็บเล่นจัดนมตู๊มมาซะเต็มคัพ เด็กๆ เล่นเกมส์ในเว็บนี้กันเยอะนะ!"

เท่านั้นแหละ ไม่นาน ข้อความของผมก็อันตธารหายไป 555+

ใครที่อยู่วงการเกมส์มาสักระยะคงได้ข่าวเกี่ยวกับเฮียวินเนอร์แกดีว่าแกสะบัดบ๊อบกว่าค่ายอื่นๆ แค่ไหน เรื่องแค่นี้ จ๊อยซ์มักกก!!

ผมไม่ได้โจมตีค่ายนี้ เกมส์ใหม่เปิดตัว เล่นฟรี ไม่ว่าค่ายไหนออกมาใหม่ผมก็ลองเล่นดูหมด สนุกก็เล่นต่อ ไม่สนุกก็เลิก เห็นดีก็ดี เห็นไม่ดีก็ไม่ดี...

ที่พูดๆ มาก็ไม่ได้มีไร ก็แค่อยากจะบอกให้เฮียวินเนอร์แกมีจิตสำนึกสักหน่อย ไม่ใช่อะไรๆ ก็.... นะ

เหตุเกิดเพราะตาไอ้กระผมมันดันไปสะดุดที่นมน้องนางแบบแ้ท้ๆ

Winner Online เปิดตัวเกมส์ใหม่แรงได้ใจจริงๆ ครับเฮีย ข้าน้อยขอคารวะ 1 ถอก! (เอ้ย 1 จอก)

คลายเครียดน้ำท่วม ... รวมเด็ดเรื่องฮา..มันมากับน้ำ‏















อย่าเอาคำว่า “อยากกลับบ้าน” มา “เผาบ้าน”

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากกลับบ้านจริงๆ หรือ?

ผมไม่เห็นอุปสรรคใดๆ กีดขวางการเดินทางกลับประเทศไทยของเขาเลย นอกเสียจาก “กรรมชั่ว” ที่คอยหลอกหลอน

เขาสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ทุกวินาที แต่เขาก็ไม่มา

คุณเคยได้ยินใครร้องตะโกนบ้าง ว่า “ทักษิณอย่ากลับ” มีแต่กวักมือเรียกกันหยอยๆ ให้รีบกลับ

ฉะนั้น อย่าซุกหัวซุกหางอยู่ต่างประเทศ แล้วใช้คำว่า “พาผมกลับบ้านด้วยครับพี่น้อง” มาเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งแตกแยกภายในประเทศอยู่เลย

มีประชาชนจำนวนมากที่รักคุณ คุณอย่าเห็นแก่ตัว หรือเลวทราม แปลงความรักที่เขามีต่อคุณเป็นอาวุธสิ โดยเฉพาะการทำให้คนเหล่านั้น กลายเป็นอาวุธประหัตประหารกับเพื่อนร่วมชาติ ที่เปรียบเสมือนพี่น้องร่วมบ้าน ที่สำคัญ อย่าแปลงเป็นอาวุธเพื่อการประหัตประหาร “พ่อ”

อย่าทำนะครับ อย่าทำ! ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำ และไม่ แม้แต่คิด

การที่ทักษิณเดินทางออกนอกประเทศก็เช่นเดียวกัน มีใครเสือกไส ประเภท “ไสหัวไป” บ้างไหมครับ ไม่มี มีแต่บอกว่า ต้องอยู่นะ มีคดีความอีกหลายคดีที่คุณต้องกล้าสู้ แต่ทักษิณก็ไม่อยู่ ซึ่งชวนให้คิดว่าทักษิณไม่กล้า

คนเรานะครับ ถ้าไม่เคยทำผิดคิดชั่วอะไรไว้ มีอะไรจะต้องกลัวอีกล่ะ เงินทองก็มี บ่าวไพร่ทนายความก็เยอะแยะ มีทั้งหมาไทย หมาฝรั่ง ช่วยเห่าอยู่รอบตัว จะต้องกลัวอะไรอีก ยิ่งในเวลานี้ น้องสาวที่คลานตามกันมา (ยกเว้นข่าวลือที่บอกว่า ไม่ใช่) เป็นถึงนายกรัฐมนตรี ถ้าคุณไม่มีความชั่วตกค้างให้ใครเขาใช้เล่นงานได้ คุณก็กลับเข้ามา แล้วมีคดีอะไรก็สู้กันไปในกระบวนการยุติธรรม เพื่อแสดงให้คนที่รักคุณเห็นว่า คุณสง่าผ่าเผย คุณไม่ใช่พวกหน้าไหว้หลังหลอก หรือหน้าเนื้อใจเสือ คุณไม่ใช่คนขี้ขลาด และกระบวนการยุติธรรมไทย ให้ความเป็นธรรมแก่คุณได้

แต่ทักษิณทำยังไงครับ ก่อนศาลมีคำพิพากษา แกล้งขออนุญาตต่อศาลว่า ต้องไปร่วมพิธีเปิดงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน แล้วก็ไม่กลับเข้ามาในประเทศอีกเลย จนคดีในศาลหลายคดี ต้องจำหน่ายออกชั่วคราว จนกว่าจะมีทักษิณมาปรากฏตัวในศาล

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน พร้อมด้วยดร.เสรี วงศ์มณฑา และจิตรกร บุษบา เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการตรากฎหมายพระราชทานอภัยโทษหรือนิรโทษกรรมเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ ต่อคณะองคมนตรี ที่ทำเนียบองคมนตรี

คุณกลัวอะไรครับ คุณทักษิณ

คุณเคยกลับมาอย่างรีบเร่ง ภายหลังที่พรรคของคุณชนะการเลือกตั้ง พอคนที่คุณผลักดันอย่างนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ คุณรีบขึ้นเครื่องบิน กลับมากราบแผ่นดินที่สนามบิน ดราม่าเสียจนคนรอบข้างยังตะลึง ร้องโอ้โหกึกก้องอยู่ในใจ ที่จริงแล้ว คุณน่าจะกราบเท้าสมัคร กราบเท้าคนไทยที่อุตส่าห์เทคะแนนให้พรรคของคุณด้วยนะครับ เขารักคุณ แต่คุณล่ะ ปฏิบัติอย่างไรกับพวกเขา เห็นเขาเป็นแค่ “เครื่องไม้เครื่องมือ” หรือ “อาวุธ” หรือ “อำนาจต่อรองต้นทุนต่ำ” เท่านั้นหรือเปล่า

คุณได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ “ถุงขนม 2 ล้าน” ที่ทนายความคนหนึ่ง นำไปทิ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ศาล จนคนทั้งสังคมได้โจษจันว่า มีความพยายามที่จะ “ปรนนิบัติศาล” เหมือนสมัยคดี “ซุกหุ้น 1” ซึ่งกลายเป็นประสบการณ์ที่ใครก็ไม่รู้ สนุกและลำพองกับการ “ให้เงินทำงานแทน” หรือเปล่า

เมื่อมีการปลุกปั่นมวลชนคนเสื้อแดง ล่ารายชื่อถวายฎีกาช่วยทักษิณ ก็ทำกันอย่างเอิกเกริก ยกเว้นคนในครอบครัวของคุณ ที่โคตรใจจืดใจดำ รู้ก็ทั้งรู้ว่า การยื่นฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษนั้น แค่พ่อหรือแม่ หรือพี่น้องที่คลานตามกันมา หรือเมีย หรือลูก ลงชื่อเท่านั้น ก็เข้ากรอบการยื่นเรื่องได้ แต่กลับมีการใช้พลังมวลชนออกมาเคลื่อนไหว หาบรายชื่อและเอกสารของคนที่ร่วมเข้าชื่อท้ายฎีกาตั้ง 3 ล้านคน ไปกดดันอยู่ที่ท้องสนามหลวง

คำถามก็คือ ทำไมพวกคุณไม่ทำให้ง่ายกว่านั้น ทำให้ถูกต้องต้องตามระเบียบ ขั้นตอน กติกา และจารีต ทำไมเมียของคุณไม่ลงชื่อขอให้ แถมหย่ากันเสียอีก ทำไมลูกสาวสองลูกชายหนึ่งของคุณไม่ดำเนินการ ทำไมน้องๆ ของคุณ โดยเฉพาะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ลงชื่อในฎีกาขอ น้องสาวของคุณอย่างนางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์ ก็มีสามีที่รู้กฎหมายแตกฉาน ทำไมไม่ลงชื่อขอ พวกคุณกลับไปเอาประชาชนที่ไม่ใช่โคตรญาติมาขอ แล้วใครเขาจะดำเนินการต่อให้คุณได้

หรือจริงๆ แล้วคุณไม่ได้ต้องการพ้นโทษ คุณแค่ต้องการให้มวลชนได้สะสมความโกรธ ความเกลียด และเข้าใจผิดใน “พระราชอำนาจ” ใช่หรือไม่ ตอบมาซิ คุณทักษิณ!

น้องสาวของคุณก็เหมือนกัน ทำทีไปติดภารกิจอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี โดยบอกว่าเครื่องบินไม่มีเรด้าร์บินกลับตอนกลางคืนได้ คุณคิดว่าคนไทยไร้สมองที่จะคิดตรึกตรองกันแล้วหรือครับ

คุณไปประชุมที่นิวยอร์ค ทางนี้มีเหตุรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในฐานะนายกฯ คุณยังสั่งการให้เครื่องบินบินขึ้น เพื่อจะกลับมาสู้ได้เลย นั่นนิวยอร์คนะ นี่แค่สิงห์บุรี ที่บังเอิญสมองของน้องสาวคุณจำผิดเป็นสระบุรี เธอจะไม่มีปัญญาโทรศัพท์มาบอกให้ ผบ.ทบ. จัดเครื่องบินลำใหม่ไปรับเธอเลยหรือครับ เพราะเธอต้องทำหน้าที่นายกฯ ต้องเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันรุ่งขึ้น

ผมกับประชาชนคนไทยจำนวนไม่น้อย จึงอดคิดไม่ได้ว่า น้องสาวของคุณ กับสมุนของคุณ อาจสมคบคิดกัน แกล้งเล่นละครคบตา ทั้งๆ ที่แจ้งกับทางกองทัพบกล่วงหน้าแล้วว่า มีภารกิจค้างคืนที่สิงห์บุรี เป็นถึงนายกฯ รัฐมนตรี ทำไมกล้า “เหยียดหยาม” ประชาชนคนไทยถึงขนาดนี้ คิดว่าถ้าเราโง่ คนอื่นก็โง่เหมือนเราอย่างนั้นหรือเปล่า ถ้าคิดเช่นนั้น คิดใหม่เถอะครับ เพราะคนไทยไม่ได้โง่เสียทุกคน

ส.ว.สมชาย แสวงการ กล่าวบนเวทีเสวนาที่สวนลุมพินี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยซ้ำว่า วันรุ่งขึ้น เมื่อเครื่องบินบินกลับ มาถึงกรุงเทพฯ แล้วทราบข่าวว่าวาระจร พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุม ก็มีคำสั่งให้เครื่องบินบินวนอยู่นั่นแหละ เพื่อถ่วงเวลา ถ้าเรื่องนี้ไม่จริง ก็ขอให้ยิ่งลักษณ์ชี้แจงมา

เมื่อมาถึงทำเนียบ ข่าวรายงานว่า มีการส่งคนติดตาม ย่องไปดูว่านักข่าวอยู่ที่ไหน นักข่าวก็ฉลาดเหลือใจ แอบกันหมด จนกระทั่งได้จังหวะ ก็โผล่มารุมสัมภาษณ์ยิ่งลักษณ์ จนต้องใช้ลูกไม้เก่า ตอบนักข่าวที่รุมถามเรื่องการตราพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ โดยเปลี่ยนเงื่อนไขให้เป็นประโยชน์โดยตรงกับทักษิณว่า “ไม่รู้ ต้องไปถามรองนายกฯ เฉลิม” พอนักข่าวไปถามรองนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็บอกว่า “เป็นความลับ พูดไม่ได้”

ประชาชนทนไม่ได้ กับ “ความแหล” และ “ความลับ” จึงลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว โดยมีนักกฎหมาย นักวิชาการ นักธุรกิจ สมาชิกวุฒิสภา นายพล ฯลฯ เป็นหัวขบวน ในเวลาเดียวกัน สื่อมวลชนดีๆ ก็กล้าหาญที่จะวิพากษ์วิจารณ์ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ต่างแสดงท่าทีคัดค้านกันอย่างเต็มที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขยับนัดรวมพล จึงต้อง รีบส่ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมา “ตัดไฟแต่ต้นลม” โดยประกาศว่า พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ไม่มีอะไรต่างไปจากฉบับก่อนๆ ซึ่งก็น่าสังเวชใจ ว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สนใจจะรู้เรื่องนี้ คนเป็นรองนายกฯ ซึ่งแอคอาร์ตเป็นตัวตั้งตัวตีบอกว่าเป็นความลับ แต่รัฐมนตรีฯ ยุติธรรมบอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรเปลี่ยน โดยไม่ยืนกรานเหมือนรองนายกฯ ว่าเป็นเรื่องลับ ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่วัน

คุณทักษิณ ครอบครัว และลูกสมุนครับ สถาบันพระมหากษัตริย์มิใช่ของเล่นหรือเพื่อนเล่นของพวกท่าน แต่ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชามหาศาล ซ้ำองค์พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ยังเปี่ยมไปด้วยทศพิธราชธรรม และทรงงานหนักเพื่อปวงชนชาวไทยมาตลอดการครองราชย์ เป็นที่ประจักษ์ชัดด้วยชีวิตจริงๆ ของคนไทยทั้งมวล ฉะนั้น จงรู้เถิดว่า ความบังอาจและพฤติกรรมเลยเถิดบ่อยๆ ของพวกคุณ เป็นสันดานที่ต้องเรียนรู้การควบคุมให้ดีๆ ครับ

ครั้งหนึ่ง โคตรญาติของคุณพร้อมใจกันเมินเฉย ไม่ลงชื่อในฎีกา เพื่อยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้ถูกต้องตามขั้นตอนปฏิบัติ แต่เดินเกมใช้มวลชนเร่งรัดและเผชิญหน้ากับ “พระมหากรุณาธิคุณ” แห่งองค์พระมหากษัตริย์โดยตรง จะเพื่อสร้างความไม่พอใจให้แก่มวลชนของคุณ ที่ถูกปลุกปั่นให้ชิงชังสถาบันเบื้องสูงอยู่แล้ว หรือว่าเพื่ออะไรก็ไม่ทราบได้ ดีที่เรามีอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายกรัฐมนตรีที่รู้คิด รู้ผิดรู้ถูก รู้ว่าอะไรบังควรมิบังควร เรื่องก็ถูกระงับยับยั้งไว้ได้

ถัดมา นายกฯ หญิงแกล้งไม่อยู่ประชุม ครม. สมุนที่น่าจะรู้กันรีบเร่งนำเรื่องอภัยโทษเป็นวาระจรและขอประชุมลับ ว่าด้วยการตรากฎหมายที่ส่อว่าจะทำลายหลักนิติรัฐ ลบล้างอำนาจและดุลพินิจของฝ่ายตุลาการ จับนักโทษดีเป็นตัวประกันเพื่อช่วยนักโทษชั่ว เสมือนนำพระราชกฤษฎีกาเลว มีมลทิน ขึ้นสู่ดุลพินิจแห่งองค์พระประมุข โดยมีมวลชนที่ร้องเรียกเพรียกหา อยากให้ทักษิณกลับมาชะเง้อคอรอคอย และพร้อมจะวิพากษ์วิจารณ์โจษจัน ในกรณีที่พระองค์ท่านมิทรงลงพระปรมาภิไธย ถ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทักษิณก็กลับเมืองไทย ถ้ามิทรงลงพระปรมาภิไธย มวลชนก็อาจเคลื่อนไหวจาบจ้วง ดูเหมือนทักษิณจะได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง

กล่าวโดยส่วนตัว ว่าผมไม่เชื่อว่า ทักษิณอยากกลับบ้าน เพราะการกลับบ้านไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทักษิณ แต่ทักษิณใช้คำว่า “อยากกลับบ้าน” กระตุ้นมวลชนของเขาเท่านั้น เพื่อไปย้ำความเชื่อที่ถูกปล่อยใส่ไว้ในความคิดของมวลชนมาตลอดว่า ทักษิณกลับบ้านไม่ได้เพราะ “อำมาตย์”

ทักษิณกำลังเล่นเกมกับ “พระราชอำนาจ” พร้อมๆ กับหยั่งอำนาจของมวลชน ทั้งฝ่ายต้านและฝ่ายหนุน อาจเพื่อจะก่อการใหญ่ในอนาคตหรือไม่ก็ได้

แม้รัฐบาลน้องสาวและสมุนของเขาจะยอมถอยในเรื่องพระราชกฤษฎีกา ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีการออกกฎหมายล้างมลทิน หรือพยายามผลักดันกระบวนการนิรโทษกรรมอื่นใดในอนาคต เพราะดูจากจดหมายฉบับล่าสุด ทักษิณยังไม่ยอมรับผิด ไม่สำนึกผิด และยังบิดเบือนการทำหน้าที่ของศาลเหมือนเดิม และมวลชนของเขา ก็ยังปักใจเชื่อเขาในเรื่องนี้เหมือนเดิม

ขณะที่ท่าที “ปรองดอง” ของ พล.อ.สนธิ บุณยรัตนกลิน ก็ดูแปลกๆ ข้อเสนอของคณะกรรมการชุด ดร.คณิต ณ นคร ก็ดูแปลกๆ ท่าทีของกรรมการชุด ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ก็ไม่ธรรมดา เช่นเดียวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับหมอเหวง หรือแนวการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะนิติราษฎร์ ก็ล้วนแต่จ่อรออยู่ให้รัฐบาลหยิบยกขึ้นมาอ้าง แล้วผสมโรงกับมวลชนคนของตัวเองเพื่อให้เกิดความชอบธรรม ก่อนจะเอาชนะด้วย “เสียงส่วนใหญ่” ในกระบวนการ “ประชาพิจารณ์” ปลอมๆ แล้วทำหน้าด้านๆ เดินหน้าประเทศไทยไปในแนวทางของพวกเขา

คนไทยที่ดี ที่มีความจงรักภักดี จึงต้องรู้ทัน รู้คิด และยืนหยัดรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยจิตที่มั่นคงแน่วแน่

Credit by จิตกร บุษบา