บทความ และข้อมูลต่างๆ ที่นำเสนออยู่บนบล็อกแห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
ข้อมูล เนื้อหาบางส่วนอาจมีการอ้างอิงมาจากที่ต่างๆ ผู้อ่าน โปรด..จง..ใช้..วิจารณญาณในการชม

ขอความสุข...คืนกลับมา

แฉ ทักษิณ ปลุกม็อบแดง ขู่รัฐบาล คืนเงิน 7 หมื่นล้าน ประกาศลั่น “ไม่ทำตาม... ประเทศไทยฉิบหายแน่ !”



ข้อสงสัยในความร่ำรวยของทักษิณ ชินวัตร มิได้อยู่ในวงจำกัดแค่คนไทย และในประเทศไทย คนทั้งโลกก็สงสัยว่าจริงๆ แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีเงินทองมากมายมหาศาลขนาดไหนกันแน่



เพราะขนาดถูกอายัดทรัพย์ทั้งของตนเอง และครอบครัว รวมกันกว่า 76,000 ล้านบาท แต่ ทักษิณ ก็ยังใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐีติดอันดับโลก ทั้งๆ ที่ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด ที่ทักษิณ แจ้งต่อคณะกรรมการ ปปช. นั้น ถูกอายัดไว้ ไม่สามารถนำไปใช้ได้แม้แต่บาทเดียว เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว

แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ทักษิณ สามารถเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลกที่อยากจะไปด้วยเครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมชั้นหนึ่งคืนละหลายแสนบาท





ไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แบบมหาเศรษฐีระดับโลก ทักษิณ ยังทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ซื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพ ในประเทศอังกฤษ และใช้เงินอีกเกือบ 500 ล้านบาท ซื้อคฤหาสน์หลังงามในอังกฤษให้ลูกสาวอยู่อย่างสุขสบาย ทั้งๆ ที่เงินทั้งหมดถูกอายัดไว้





เท่านั้นยังไม่พอ ที่ทักษิณ เพิ่งอวดความร่ำรวยของตัวเอง ก็คือ จ่ายเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวอีก 1 ลำ ราคา 1,500 ล้านบาท จ้างฝรั่งเป็นกัปตัน และ แอร์โฮสเตสส่วนตัว ด้วยค่าจ้างเดือนละเกือบ 1 ล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าจ้างเลขาสาว 3 คน และ รปภ. อีก 3 คน

ไม่มีใครอิจฉาความร่ำรวยของทักษิณ แต่เป็นความสงสัยมากกว่าว่า ทักษิณ ไปทำอะไรมา จึงร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ทั้งๆ ที่ถูกอายัดทรัพย์ทั้งหมด และไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้ เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณบอกว่า ไม่ได้ทำธุรกิจ ประกอบอาชีพใดๆ เลย

นอกจากทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดในประเทศไทย ทักษิณ ยังถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ ไว้อีก 140,000 ล้านบาท ทักษิณ ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเอาเงิน 140,000 ล้าบาท มาจากไหน ได้มาด้วยวิธีการอย่างไร และได้มาตั้งแต่เมื่อไร

ทักษิณ จึงถูกถอนวีซ่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีก พูดง่ายๆ ก็คือ ทักษิณ เป็นบุคคลที่ประเทศอังกฤษไม่ต้อนรับ ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านั้น ทักษิณ ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ นานกว่า 1 ปี

ทำไมท่าทีของรัฐบาล อังกฤษ ที่มีต่อทักษิณ จึงเปลี่ยนไป



เพราะ ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่ต่างจากอาชญากรเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก ที่ตอบไม่ได้ว่า ได้เงินมาอย่างไร

เพราะ ประเทศไทย กลับคืนสู่สภาพปกติ มีการปกครองระบอบประชาธิป ไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว

เพราะ ทักษิณ มีสถานะเป็นนักโทษหนีคุก หนีศาล ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง



นอกจากจะไม่เป็นที่ปรารถนาของอังกฤษ ทักษิณ ยังถูกบังคับให้ขายหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ออกจนหมด และถูกสโมสรลบชื่อออกจากทำเนียบประธานสโมสร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในวงการฟุตบอลอังกฤษ

ทักษิณ โจมตีรัฐบาลอังกฤษ ว่าถูกรัฐบาลไทยแทรกแซงจนไม่กล้าให้วีซ่า และปฏิเสธคำขอเข้าประเทศอังกฤษ ของเขา

ในเวลาไล่เลี่ยกัน บริวารของทักษิณก็กล่าวหาว่า ราชวงศ์ของไทย ร้องขอให้ราชวงศ์อังกฤษ สั่งห้ามรัฐบาลอังกฤษ ออกวีซ่าให้ทักษิณอีก!!!!

การกล่าวหานี้ มีเป้าหมายให้เกิดผลกระทบต่อราชวงศ์และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และราชวงศ์ของอังกฤษอย่างร้ายแรง ในสายตาของชาวไทยและชาวโลก

วันนี้ ปัญหาของทักษิณ ไม่ได้อยู่เงิน 76,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลไทยอายัด เพราะมีหลักฐานพอเชื่อได้ว่ามีที่มาจากการขายหุ้น ซึ่งหากทักษิณ ไปพิสูจน์ในศาล ก็เชื่อว่าน่าจะได้คืน

แต่เงินก้อนใหญ่ 140,000 ล้านบาท ที่อังกฤษอายัดไว้ ต่างหากที่เป็นปัญหา ซึ่งทักษิณ ชี้แจงไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร

ใช่เงินของคนไทย ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทออกไปจากประเทศไทย หรือ ไม่ ?



เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมากที่ คนต่างชาติคนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในอังกฤษเพียงปีเศษ จะทำธุรกิจได้กำไรมีเงินทองกองอยู่ในอังกฤษ มากกว่า 140,000 ล้านบาท



หากไม่โกง หรือ กอบโกยมาจากประเทศอื่น เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

ทักษิณ ถูกต้อนจนมุมคาจอโทรทัศน์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี จนต้องสารภาพว่า เขาทำธุรกิจอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิ้น ซึ่งเป็นแหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เป็นไปได้ไหม ที่เงินจำนวน 140,000 ล้านบาทนี้ ถูกส่งออกจากประเทศไทย ไปฟอกที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น แล้วถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในอังกฤษ ในชื่ออื่นที่ไม่ใช่ ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก่อนจะเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

วันนี้ สิ่งที่ ทักษิณ ต้องทำ ก่อนที่จะคิดกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเหนือประเทศไทย อย่างที่พูดอยู่ทุกวัน ฝันอยู่ทุกคืน ก็คือ ชี้แจงให้ประชาชน ทราบ 4 เรื่อง ดังนี้

1. เงินที่งอกขึ้นมาเกือบ 50,000 ล้านบาท ก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งแจ้งไว้กับ ปปช. ว่ามีอยู่ 25,000 ล้านบาท มาจากที่ไหน ?
2. เงินจำนวน 140,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลอังกฤษ อายัดไว้ มีที่มาอย่างไร
3. เงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ใช้ลงทุนและซ้อทรัพย์สินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เอามาจากที่ไหน
4. เงิน 20,000 ล้านบาท หรือราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทักษิณ บอกกับนักข่าวว่ามีเหลือติดตัวอยู่เท่านี้ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้มาอย่างไร

หากตอบคำถาม 4 ข้อนี้ไม่ได้ ก็ป่วยการที่จะคิดฝันถึงวันจะกลับมาเป็นผู้มีอำนาจเหนือประเทศไทยอีกครั้ง เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ ตาสว่างแล้ว

ตาสว่างพอที่จะมองเห็นว่า ทักษิณ วางแผนปลุกระดมคนเสื้อแดง ก่อความไม่สงบในประเทศไทย แล้วใช้เป็นเงื่อนไขบีบบังคับให้รัฐบาลต้องคืนเงิน 76,000 ล้านบาทที่อายัดไว้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ที่มาของเงินในศาล

เปรียบกันง่ายๆ วันนี้ ทักษิณ จับประเทศไทย และประชาชนเป็นตัวประกัน ข่มขู่ให้คืนเงิน 76,000 ล้านบาท คืน หากไม่ทำตามที่เขาต้องการ



ประเทศไทย ต้องฉิบหาย... คนไทย ต้องล่มจม “เมื่อข้าอยู่ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใคร หน้าไหน จะอยู่อย่างสงบ” นี่คือประกาศิตของทักษิณ ก่อนเคลื่อนพลใหญ่ 8 เมษายน นี้

คำถามก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ จะยอมให้ทักษิณ และสมุนกระทำทารุณกรรมต่อประเทศไทย หรือไม่ ?