คนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ
MSN B says: ใครคือ "คนมีบารมี"
MSN A says: เออ...ว่าจะเล่าให้ฟัง
MSN A says: เอาสาเหตุที่มันพูดก่อนมั๊ย (อันนี้ผมได้ข้อมูลมาจากคนใกล้ชิดในวัง)
เรื่องที่หนึ่ง
MSN A says: จำวันที่ จัดงานวันสุดท้ายในงานเลี้ยงภายในพระบรมมหาราชวังได้มั๊ย ตอนที่พระราชินีทรงจับมือในหลวงฯ
MSN B says: จำได้
MSN A says: คิดว่า เป็นยังไง
MSN B says: ไม่แน่ใจนะตอนนั้น
MSN A says: ตอนที่พระราชินีจับมือในหลวงฯ นานๆ ตอนรับแขกเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงในงานวันสุดท้าย(งานเลี้ยงภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นงานพระราชพิธีภายใน) สมเด็จพระบรม+สมเด็จพระเทพฯ จะไปยืนรับแขกอยู่ประตูด้านหน้า
เรือ่งของเรื่องก็คือ เมื่อแขกเดินผ่านเข้าไปสู่ด้านในจะต้องไปหยุดขอให้ พนง.ขานชื่อก่อนเข้าเฝ้า ในหลวงฯ และพระราชินี ล้วนายกฯ ทักษิณ (ซึ่งตอนนั้นทักษิณยังเป็นนายกอยู่) ดันไปดักรอแขกอยู่ตรงนั้น ไปรับสัมผัสมือแขกก่อนเข้าเฝ้าในหลวงฯ
ในหลวงฯ ทรงพิโรธมาก เพราะเห็นอยู่ต่อหน้า (นึกภาพออกมั๊ย) จนสั่งให้องคมนตรีเข้าไปเตือนและให้นำตัวออกไปจากจุดนั้น
แต่นายทักษิณไม่ยอม อ้างว่าตัวเองเป็นนายกฯ และเป็นแขก มีหน้าที่และสามารถทำได้ และไม่ยอมทำตาม
พระราชินีฯ จึงรับสั่งให้ ท่านผู้หญิงฯ ไปดำเนินการ ท่านผู้หญิงก็ไปบอกและเชิญให้นายทักษิณไปอยู่อีกห้อง แต่นายทักษิณก็ยังไม่ยอมทำตาม และดื้อดึงที่จะอยู่ จนเป็นที่น่ารำคาญยิ่ง แต่ท่านผู้หญิงฯ ก็ไม่ยอมแพ้ ลากมันไปจนได้ โดยบอกเหตุผลชัดเจนว่า...
วันนั้น...มันโกรธมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เรื่องที่ 2
MSN A says: เจ้าชายจากอังกฤษที่เป็นพระราชอาคันฑุกะ เข้ามาในเมืองไทย...
นายทักษิณ เพียรพยายามไปขอเข้าเฝ้าและขอเลี้ยงข้าวเที่ยง.. ทางฝ่ายโน้นเขาก็บอกว่า เขาไม่ได้มาในนามรัฐบาล แต่เป็นพระราชอาคันตุกะ คงไม่เหมาะที่จะไป และไม่มีภาระกิจเกี่ยวเนื่องในงานรัฐบาลใดๆ ด้วย
จนทางฝ่ายโน้นเขาต้องโทรฯ ไปถาม นายกฯ อังกฤษ จนได้ความว่า "ให้เขาเข้าพบไปเหอะ" เพราะตอนนี้ทางอังกฤษต้องการมิตรเยอะ
หลังจากการเข้าพบ ในอาหารมื้อเที่ยง ทักษิณไปเจรจากับเจ้าชายอังกฤษว่า จะไปทำธุรกิจที่โน่น เชิญเจ้าชายมาร่วมทุน พร้อมเสนอให้หุ้นลม
ส่วนทางโน้นเขาก็ไม่รับปาก จะตกลงหรือไม่ตกลงไม่รู้ แต่หลังจากกลับไปถึงอังกฤษแล้ว เขาทำหนังสือมากราบทูลเรื่องทั้งหมดให้ในหลวงฯ ทรงทราบ และเป็นที่รู้กันทั่วในวัง
ตอนนั้น...มันก็โกรธมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เรื่องที่ 3
MSN A says: หากสังเกตให้ดีในช่วงนำกษัตริย์ต่างๆ เข้าเฝ้าในงานเสด็จออกสีหบัณชร และอื่นๆ นายทักษิณ จะพยายามทำตัวใกล้ชิด สนิทสนมกับกษัตริย์บรูไนมาก ถึงขนาดแตะไหล่ แตะบ่า
มันก็ไม่เชื่อ กลับเถียงเขาว่า.. ก็กษัตริย์บรูไน เป็นนายกฯ เป็นเพื่อนกัน เคยทำอย่างนี้กันมาตลอด แม้ในเวลาไปประชุมร่วมกัน ในฐานะสมาชิกอาเซียน
เอกอัครราชฑูตบรูไน บอกว่า "ไม่ได้" การมาครั้งนี้ มาในนามกษัตริย์ของบรูไน "ห้ามแตะต้องตัวโดยเด็ดขาด"
มันก็เลยโกรธมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก..อีก
เรื่องที่ 4
ในงานเลี้ยงดูขบวนเรืองาน มีตั้งแต่เย็นไปจนถึงเกือบสี่ทุ่ม นายทักษิณสั่งจัดเลี้ยง เตรียมอาหารให้เหล่าแขก+ในหลวงฯ เป็นแค่ขนม ตะโก้ ขนมชั้น กับกาแฟ มันไม่คิดว่า แต่ละพระองค์จะหิวกันขนาดไหน!!!
MSN B says: อืมไม่สมควรจริงๆ ทำไมคิดได้แค่นั้น
MSN A says: แม้แต่นิทรรศการ ก็ทำกันสุดห่วย จนเช้าวันรุ่งขึ้น สมเด็จพระเทพฯ เอ่ยปากเรียกเจ้าของไปพบ เปิดเผยว่า "งานที่มันทำห่วยขนาดไหน" เป็นการจงใจทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ มากกว่ายกย่อง
MSN A says: ทั้งหมดคือที่มาของคำว่า "คนมีบารมี"
MSN B says: แล้วคำว่า "นอกรัฐธรรมนูญ" หล่ะ
MSN A says: อย่าไปหลงเข้าใจผิดคิดว่าเป็น "ป๋าเปรม" (หลายๆ คนอาจคิดอย่างนั้น) วันก่อนกลุ่มราชนิกูลก็ออกมาด่ามันแล้ว เพราะรู้ว่ามันพยายามอ้อมด่าใคร
MSN B says: ตกลงเราก็ได้แต่นั่งดูเหรอ
MSN A says: ช่าย... และบอกต่อๆ กันไปให้รู้ให้มากที่สุด เพราะคนระดับล่างยังโดนมันหลอกอยู่ด้วยเศษเงินที่มันหว่านไปให้
MSN A says: ถ้าได้อ่านข้างบนให้หมดทุกเรื่อง ก็จะเข้าใจว่าทำไมมันถึงโกรธในวังมาก และกล้า(บ้า)ออกมาพูดจาบจ้วงเช่นนั้น
อดโกรธไม่ได้ ที่เห็นคนไทยจำนวนไม่น้อย ยังหลงเชื่อผิดๆ ว่ามันเป็นคนที่จะปลดแอกประชาชน
ตอนนี้ นักข่าวเขาก็รุมทำข่าวไล่ด่ามันทุกวันแหละ เชื่อได้เลยว่า..ที่บอกว่าจะต้องมีการรบราฆ่าฟันกันถึงตาย...มีแน่นอน
MSN B says: เดี๋ยวผมจะเอาไปโพสต์ต่อให้คนอื่นๆ ได้ลองใช้วิจารณญาณอ่านดู..
0 comments
แสดงความคิดเห็น