บทความ และข้อมูลต่างๆ ที่นำเสนออยู่บนบล็อกแห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
ข้อมูล เนื้อหาบางส่วนอาจมีการอ้างอิงมาจากที่ต่างๆ ผู้อ่าน โปรด..จง..ใช้..วิจารณญาณในการชม

ขอความสุข...คืนกลับมา

วิเคราะห์ทิศทางการยกระดับต่อสู้ "มวลชนคนเสื้อแดง"





หลังจากที่ วันจันทร์ 5 เมษายน 2553
แกนนำแดง1 ยกกำลังไปข่มขู่ กกต.ถนนแจ้งวัฒนะ (เมื่อไม่ได้ดังใจ ) อหังการ ประกาศ จะบุกบ้านประธาน กกต.
แกนนำแดง2 ยกกำสังไปกดดันศาลสามเกลอแกนนำใหญ่ ฉีกคำสั่ง ศอรส.ที่ให้ยุติการปิดสี่แยกราชประสงค์ ฯลฯ

- ศาลแพ่ง ยกคำร้อง กอ.รมน. ให้ม๊อบแดงพ้นราชประสงค์ ชี้มีอำนาจ ทำได้อยู่แล้ว (เพราะการกระทำของกลุ่มแดงมีความผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 และ 63)

เมื่ออาทิตย์ 4 เมษายน 2553 แกนนำใหญ่สั่งเคลื่อนกองทัพแดง
1. ไปปิดล้อมสี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียง โดยประกาศอย่างเปิดเผยว่าต้องการปิดล้อมศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศให้หยุดชงักเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง ให้รัฐบาล "ยุบสภา" และยังแสดงอำนาจบาดใหญ่ข่มขู่ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าใหญ่ให้เปิดห้าง เพื่อคนเสือแดง จะได้พักร้อนและใช้ห้องน้ำ
2. และมอบหมายให้ แกนนำภูธร (ขวัญชัย) ปิดถนนปิดการจราจรถนนวิภาวดีและสามแยกดินแดน จนเป็นอำมพาต สร้างความเดือดร้อนแก่คนกรุงเทพฯและคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานฯ
3. อีกทั้งนายขวัญชัย ไปปิดล้อมและ ขุ่มขู่สถานีโทรทัศน์ NBT

ก่อนหน้านี้สามเกลอยังบังอาจข่มขู่จะไปบุกจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยเนื่องจากไม่พอใจที่ ชาวจุฬาเสื้อชมพูจะชุมนุมแสดงความคิดเห็น คัดค้านการกระทำที่บ้าคลั่งรุนแรงของกลุ่มเสื้อแดง ที่ต่อเนื่องมาจากการกดดันรัฐบาลให้มาเจรจาได้สำเร็จ จากการป่วนสังคมและการไปข่มขู่ขับไล่หยามเหยียดเกียรติของทหารที่มาทำหน้าทีรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และย่ามใจจะไปบุกรุก กองทัพที่ราบ11 และที่ต้องจารึกถึงเจตนาเบื้องลึกของแกนนำแดงและทักษิณ คือ การใช้สัญญาลักษณ์ของความรุนแรง "เลือดต้องล้างด้วยเลือด" ที่เอาเลือดคนมาชุมนุม 10 cc. มาสาดทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านนายกรัฐมนตรี ฯลฯ

เหตุการณ์ดังกล่าว ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ ยุทธการ 12 มีนาคม 2553 ที่แสดงอำนาจบาดใหญ่ของ กลุ่มคนเสื้อแดงใน ยุทธการป่วนเมืองทำลายเศรษฐกิจลิดรอนสิทธิเสรีภาพและความปลอดภัยของประชาชน และขัดขวางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ฯลฯ เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจะดำเนินการต่อไปอย่างไม่หยุด ตราบเท่าที่เป้าหมายที่ไม่ปิดบังของทักษิณผู้บงการยังไม่บรรลุ คือ การมีพระบรมราชโองการนิรโทษกรรมฯ การยกคดีและการคืนเงินทั้งหมด ที่คณะศาลฎีกาตัดสินเมื่อ 26 กุมภา 2553 และคดีอื่นๆ ของทักษิณและครอบครัว การยกเลิกโทษคดียุบพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน ฯลฯ เพื่อให้ทักษิณและบริวารสามารถกลับมามีอำนาจ บริหารราชการแผ่นดิน และเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศใหม่ จากระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็น ระบอบประชาธิปไตยเพื่อประชาชน!!!

โดยเริ่มจาก ข้อเสนอ การยุบสภา การเลือกตั้งใหม่ การกลับมาเป็นรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ



สิ่งที่เราต้องมาศึกษาพิจารณาด้วยปัญญา ด้วยเหตุผล

1.การดำเนินการทั้งหมดทุกกระบวนการของทักษิณและแดง สันติวิธี ? เป้าหมายของทักษิณจะบรรลุ ต้องใช้ความรุนแรงแน่นอน ไม่มีใครแย้ง การดำเนินการแม้แต่รูปแบบ ก็มิใช่สันติหรือแม้แต่คำพูดรุนแรง การไปปิดล้อมสถานที่กรมทหารราบที่ 11 ถนนวิภาวดี สถานีโทรทัศน์ NBT สี่แยกราชประสงค์

1.2 การใช้เลือดของผู้ชุมนุม สร้างเป็นสัญลักษณ์ความรุนแรง เนื้อหา ยิ่งชัดเจน
1.3 การข่มขู่คุกคาม
1.4 การประนามผู้คนที่ไม่เห็นด้วย
1.5 การละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
1.6 การขัดขวางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและสภานิติบัญญัติ รวมถึงการต้องการโค่นล้มรัฐบาล สถาบันองคมนตรีและสถาบันหลักของชาติ และมิได้ดำเนินการตามระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1.7 การไม่เคารพระบบการเลือกตั้ง คือ การไม่ยอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่มีความชอบธรรม
1.8 การไม่เคารพสถาบันตุลาการ องค์กรอิสระฯ ตามรัฐธรรมนูญ
1.9 การใช้การกระทำแบบอนาธิปไตย อย่างที่เราได้เห็นอย่างชัดเจนในปัจจุบัน เป็นการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 และ 63

2.การเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาลที่มีอำนาจสูงสุด คือ นายกอภิสิทธิ์ กับ ตัวแทนของกลุ่มแกนนำแดงบางส่วน ที่ไม่สามารถเป็นตัวแทนอันชอบธรรมของส่วนทั้งหมดที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามที่ควรจะเป็นคู่เจรจา(พรรคเพื่อไทย ยังมีความชอบธรรมมากกว่า) และไม่สามารถเป็นตัวแทนที่มีอำนาจเต็มของผู้ชุมนุม คือ ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงที่รับปากได้ คือ ไม่สามารถห้ามคนเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ ที่จะไปรบกวน ขัดขวางการบริหารราชการแผ่นดิน การประชุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การไปจัดเวทีของนักวิชาการและผู้จัดรายการฯ

กล่าวสรุปคือ

ฝ่ายรัฐบาลสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ แต่แกนนำแดงสามคนไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้

ซึ่งทำให้การเจรจาในข้อเสนอเรื่อง "การยุบสภา" เลยกลายเป็นเรื่องสภาโจ๊ก!!! เท่านั้น โดยไม่ต้องกล่าวถึงเหตุผลการยุบสภา ซึ่งขาดน้ำหนัก ที่นักประชาธิปไตย สส.และสว. นักธุรกิจ ประชาสังคม ประชาชน รวมทั้งอดีตนายกชวน หลีกภัย ล้วนแต่ไม่เห็นด้วย

สรุปของสรุปคือ การเจรจาของสองฝ่ายที่แปลกประหลาด ไม่เคยมีปรากฏขึ้นในโลกความเป็นจริงของประเทศใดๆ แย่ยิ่งกว่าข้อเสนอ 6 ข้อ ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการชุดคุณดิเรก และไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเลย

3.การปล่อยให้สภาพอนาธิปไตยของกระบวนการเสื้อแดงดำรงอยู่ จะเกิดผลดีผลเสียอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจกระบวนการของคนเสื้อแดง คือ ทักษิณหัวหน้าผู้บงการใหญ่เป็นผู้ที่ไม่เคยเป็นนักประชาธิปไตยและไม่เคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาเลย ( การประกอบธุรกิจ ไม่มีธรรมาภิบาล ) หลักการใหญ่ คือ ใช้ทุกรูปทุกแบบ ไม่ว่าผิดหรือถูก คนดีหรือคนชั่ว พูดจริงหรือพูดเท็จ สันติหรือความรุนแรง ความรักหรือความเกลียด ขอให้บรรลุเป้าหมาย และเป้าหมายส่วนตน ต้อง มาก่อนส่วนรวม ( ทักษิณ จึงสามารถใช้ ทหารตำรวจ (ขวาจัด) และคนเคยมีอุดมการณ์ (ซ้ายจัด) คนยากจนที่เป็นทั้งเกษตรกร กรรมกร และนายทุนใหญ่ที่เป็นนักธุรกิจหรือรัฐมนตรีเก่า รวมถึงประชาชน (รากหญ้า) ที่เป็นผู้เลือกตั้งและนักการเมืองเลือกตั้ง ฯลฯ )


แกนนำแดง มีอย่างน้อย 3 ส่วน คือ

1. ส่วนที่เคยมีอุดมการณ์ซ้ายจัด ไม่สนใจวิธีการ เอาเป้าหมายเป็นหลักซึ่งก็คือ ไม่เอาทหารหรือกองทัพ ไม่เอานักเลือกตั้งทุนสามานย์ ( แต่ถือเป็นแนวร่วมชั่วคราว เพื่อไปโค่นล้มศักดินาก่อน แล้วมาโค่นล้มทุนสามานย์ที่หลัง ) และที่สำคัญที่เป็นอคติคือการโค่นล้มสถาบันองคมนตรีและสถาบันหลักของชาติ ส่วนนี้จะเน้นรูปแบบสันติและกึ่งสันติ แต่เนื้อหาคือ ความรุนแรง ตัวแทนคือ สามเกลอและพวก

2. ส่วนที่เคยมีอุดมการซ้ายจัด หรือเพิ่งจะมีความคิดซ้ายจัด จากการคิดเอาเองว่าสถาบันหลักของชาติ เป็นผู้ขัดขวางทางเดินไปสู่เป้าหมายของเขา ส่วนนี้จะมีความคิดตรงไปตรงมาไม่ปิดบังเหมือนกลุ่มแรก คือ การใช้ความรุนแรงทั้งรูปแบบและเนื้อหา

3. ส่วนที่เอาผลประโยชน์ทั้งตำแหน่งอำนาจและเงินเป็นตัวตั้ง สามารถรับใช้ผู้อุปถัมภ์ที่สามารถให้เขาได้ ซึ่งมีทั้ง สส.และมิใช่ส่วนของแกนแดงระดับล่าง ส่วนหนึ่งเป็นหัวคะแนน ส่วนหนึ่งผ่านโรงเรียนการเมือง นปช. ส่วนหนึ่งเป็นผู้รับจ้างฯ ประเด็นที่สำคัญคือ คนเหล่านี้ มิใช่พลเมืองที่เอาการเอางาน มิได้เป็นผู้มีจิตสำนึกทางการเมืองที่แท้จริง เพราะเป็นผู้ถูกยัดเยียดความคิด ให้ขึ้นต่อแกนนำแดง ไม่ได้เป็นตัวของตนเอง และต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและส่วนรวม แต่เพื่อรับใช้ทักษิณและแกนนำแดงเท่านั้น

ส่วนที่สำคัญมีอีกอย่างน้อย 2 ส่วน คือ

1. ส่วนของการใช้กำลัง ที่มีอดีตนายทหารใหญ่อดีตนักการเมืองใหญ่ที่มีอุดมการณ์ เป็นหัวหน้าและหัวเสธ มีเสธที่มีเลือดแดง (ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็คงทราบกันดีว่าใคร)ทหารรับจ้างและทหารอกหักเป็นลูกมือ

2. ส่วนของเสนาธิการระดับกรมการเมืองบนตึกสูงของบริษัทในเครือ เป็นระดับเครือญาติ รัฐมนตรี คนรอบกาย ทั้งหญิงและชายกลไกและเครื่องมือที่สำคัญที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของทักษิณเงินทุนมหาศาลที่โกงมาจาการใช้อำนาจรัฐ ( ซึ่งอยู่ที่ตัวทักษิณและครอบครัว ญาติเครือบริษัทธุรกิจ อดีตรัฐมนตรีในยุคทักษิณและนอมินี และบริวารใกล้ชิด ทั้งใน และนอกประเทศ ฯลฯ ) บุคคลากรและสถาบันเชิงอำนาจ ทั่วทุกวงการ ทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคการเมืองในสภาและนอกสภา ภาคราชการ (ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และข้าราชการอื่นๆ)รวมทั้งในกระบวนยุติธรรมบางส่วน องค์กรอิสระ องค์กรมหาชนบางแห่ง รวมทั้งคนเคยมีอุดมการณ์และนักวิชาการอคติซึ่งเป็นแปลกแยกส่วนน้อย

การใช้สื่อครอบงำประชาชน ชาวบ้านตาดำๆ

การใช้สื่อทุกประเภท ทั้งของทักษิณและกลุ่ม และสื่อต่างๆ ในประเทศและต่างประเทศ เครื่องมือนี้มีบทบาทสูงมากในการโน้มน้าวจูงใจให้ผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะชาวบ้านและผู้ขาดข้อมูล ขาดการใช้ปัญญา และขาดความอิสระที่จะตัดสินใจด้วยตนเอง ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเท็จมีจริงบางส่วน แต่จากการใช้สื่อแบบซ้ำๆ และถี่ๆ ทุกชั่วโมง ทุกวันประสานกันอย่างเป็นระบบ ทั้ง TV วิทยุ นสพ. SMS WEBSITE TWITTER VDO-LINE PHONE-IN การปราศัยในการชุมนุม การพูดและบอกต่อในการประชุมในชุมชนโดยสส. อบจ. สท. อบต. กำนันผู้ใหญ่บ้านฯ การอบรมในโรงเรียนการเมืองนปช.( สถานีตำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่ง ถูกสั่งให้เปิด TVแดง และมีการนำเอา TV แดง ไปแจกทุกหมู่บ้าน SMS แดง ให้บริการฟรีในช่วงการชุมนุม ฯลฯ )

เรื่องนี้มีผลซึมลึกและสร้างความแตกแยก ความเกลียดชังในครอบครัว ชุมชน ที่ทำงาน และในสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะความเข้าใจต่อเรื่องประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความไม่เป็นธรรม ใครถูกใครผิด และที่สำคัญยิ่ง คือ ความเข้าใจต่อสถาบันหลักของชาติที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง ( ไม่อยากจะกล่าว แต่จำเป็นต้องนำมาให้รับทราบกัน ชาวบ้านบางส่วนในหมู่บ้านเอารูปใส่กรอบที่เคยติดออก บางแห่งยิ่งแย่ คือ เอารูปบางคนไปติดแทน ฯลฯ )

จากประเด็นและเหตุผลที่กล่าวมา กระบวนการของคนเสื้อแดงภายใต้การบงการของทักษิณผ่านแกนนำแดง เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนที่ไม่ชอบธรรมทั้งนั้น ไม่ได้เป็นไปตามหลักของประชาธิปไตย มิได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและประเทศชาติ แต่กลับใช้วิชามารอาศัยกลไกและเครื่องมือต่างๆ บิดเบื้อนให้ดำเป็นขาว ให้ขาวเป็นดำ หมายความว่า

"ทักษิณและแกนนำแดงซึ่งมีความผิดและกระทำผิด กลับถูกแปลงสารว่า เป็นผู้ถูก เป็นผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี สถาบันยุติธรรม ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้ถูก กลับเป็นผู้ผิด"


4.การดำเนินการของรัฐบาลมีความเหมาะสมสอดคล้อง สามารถแก้ไขสถานการณ์ ได้หรือไม่อย่างไร เราคงต้องหยิบยกเอาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาพิจารณา จากการดำเนินงานของรัฐบาล

4.1 ได้มีการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในการเดินทางการประกอบ อาชีพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินฯลฯ หรือไม่

4.2 รัฐบาลสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ หรือไม่

4.3 รัฐบาลสามารถปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และการถูกละเมิดสิทธิของกองทัพที่ถูกแกนนำเสื้อแดงประนาม เยาะเย้ย ถากถาง หรือไม่

4.4 รัฐบาลได้ดำเนินการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและการถูกละเมิดสิทธิขององคมนตรีและสถาบันองคมนตรี จากการกระทำของทักษิณและแกนนำแดง ได้หรือไม่?

4.5 รัฐบาลได้ดำเนินการปกป้องคุ้มครองสถาบันสูงสุดของชาติ จากการกระทำของทักษิณแกนนำแดงและผู้เกี่ยวข้องหรือไม่

ต้องขอฝากรัฐบาลที่เป็นความคาดหวัง และได้ดำเนินการการบริหารราชการในหลายเรื่องมาได้ด้วยดี ทั้งๆ ที่มีความจำกัดค่อนข้างมากรัฐบาลต้องเข้าใจ สถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน มิใช่อยู่ในภาวะปกติแล้ว แต่อยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤติที่สุดในโลกรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน จะต้องใช้ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่ได้รับจากประชาชน ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฏหมายอย่างเคร่งครัด และรวดเร็วเพื่อให้ทันสถานการณ์ต้องแก้ปัญหา ทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาระยะยาว

ยังคงเป็นกำลังใจให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ในการแก้ปัญหาคุณทักษิณและบริวาร รวมทั้งการแก้ปัญหาการป่วนเมืองเย้ยกฏหมาย ให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุข ควรใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส ในการปฏิรูปสังคม ปฏิรูปการเมือง การกล้าตัดสินใจเช่นนี้ ย่อมจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างต็มที่

โอกาสที่ดีทางการเมืองเช่นนี้ มิได้เกิดขึ้นง่ายและบ่อยนัก โอกาสปฏิรูปสังคมไทยมาถึงแล้ว?



อ้างอิงข้อมูลจาก อิสระโพสต์